ถ้าใครเจอเอเจนต์แบบนี้ ... อาจจะเป็นเพราะ ...
1. ไม่ใช่เอเจนต์ หรือทนายความ ไม่มีใบอนุญาตสำหรับการให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือด้านวีซ่า
2. เป็นเอเจนต์ หรือเป็นทนายความ แต่เคสความเสี่ยงสูง ไม่อยากเสียประวัติ ถ้าทำเคสแล้วไม่ผ่าน หรือเป็นเคสที่ไม่มีหวังเลย แต่ไม่บอกลูกความตามตรง หรือตั้งใจทำเคสแบบหมกเม็ด dodgy
3. โอเค มองโลกในแง่ดีขึ้นมาอีกนิด ...?? คนเขียนคิดไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไรดีๆมั่ง ... น้องก็ถามเอเจนต์ไปเลยว่าทำไมถึงจะช่วยอยู่แค่เบื้องหลัง ทำไมไม่ลงชื่อเป็นเอเจนต์ในระบบอย่างที่ควรจะเป็น
น้องบางคน (รวมถึงลูกความเคสนี้) ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าใบสมัครของน้อง ไม่มี Representative on the record
น้องบางคน รู้ทั้งรู้ว่าเอเจนต์ (หรือไม่เอเจนต์) ช่วยอยู่แค่เบื้องหลัง แต่ก็ยอมใช้บริการ
.... ทำไม ??? ....
จะเสียเงินทั้งที ทำไมไม่หาคนที่เค้าทำงานจริงๆ กล้าทำ กล้ารับ กล้าที่จะเอาชื่อตัวเองมาแปะในใบสมัครบอกอิมมิเกรชั่นว่าชั้นนี่แหละเป็นคนดูแลลูกความเคสนี้ .... ทำไมถึงยอมใช้บริการคนที่ไม่กล้าออกตัว .... แล้วน้องเชื่อได้ยังไงว่าเค้าจะทำงานอย่างเต็มที่
เคสที่ไม่ใช่เอเจนต์จริง หรือเอเจนต์จริงแต่ไม่ใส่ชื่อเป็นเอเจนต์ในใบสมัคร คงไม่ใช่ปัญหาถ้าเคสจบไปได้แบบสวยๆ .... จะเป็นปัญหาก็ตอนที่เคสไปได้ไม่สวย อิมมิเกรชั่นขอเอกสารเพิ่ม หรือมีการให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง เกิดอะไรขึ้น ? ... น้องโดนลอยแพ
เราจะทราบได้ยังไงว่าเราเสียเงินใช้บริการเอเจนต์แล้ว เค้าจะเป็นเอเจนต์ให้เราจริง
1. มีการเซ็นฟอร์ม 956 แต่งตั้งเอเจนต์ ..... เอเจนต์จะมี Migration Agent Registration Number: MARN .... ทนายความจะมี Legal Practitioner Number: LPN .... ทั้ง MARN และ LPN เป็นเลข 7 ตัวค่ะ
2. มีชื่อเอเจนต์อยู่ในใบสมัครวีซ่าที่เรายื่นให้กับอิมมิเกรชั่น
3. มีอีเมล์ของเอเจนต์ในใบสมัครวีซ่า สำหรับติดต่อกับอิมมิเกรชั่น (ไม่ใช่อีเมล์ของน้องเอง หรืออีเมล์ที่สร้างมาใหม่เพื่อเคสน้องโดยเฉพาะ)
มาเข้าเรื่องเคสที่คนเขียนจะแชร์ในวันนี้กันดีกว่า
Character คืออะไร .... คือประวัติของเรานั่นเองค่ะ ว่าเราเป็นคนดีของสังคมไหม ... ถ้าออกวีซ่าให้ จะมีโอกาสทำความเดือดร้อนให้สังคมไหม .... เคสที่อาจจะเจอปัญหา Character ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเคสที่มีประวัติคดีอาญา หรือประวัติวีซ่าอันโชกโชน
ใครที่มีประวัติคดีอาญา ไม่ว่าจะถูกโทษปรับ ภาคทัณฑ์ รอลงอาญา จำคุก ก็ต้องมาพิจารณาก่อนการยื่นวีซ่าว่าคดีของเราจะมีผลกับวีซ่าไหม เราต้อง Declare (แจ้งอิมมิเกรชั่นไหม) เราควรจะทำยังไงให้ใบสมัครวีซ่ามีโอกาสผ่านมากที่สุด
เคสนี้ น้องติดต่อมาหาคนเขียนหลังจากยื่นใบสมัครวีซ่าไปแล้ว และหลังจากอิมมิเกรชั่นส่งจดหมายให้เวลา 28 วัน (4 อาทิตย์) ให้น้องอธิบายเรื่องคดีอาญาที่เกิดขึ้น .... กว่าน้องจะมาถึงคนเขียน เราเหลือเวลา 21 วัน (3 อาทิตย์)
เคสนี้ตัววีซ่าเองไม่ยาก ความยากอยู่ตรงประวัติคดีอาญานี่แหละ .... เหลือ 3 อาทิตย์ ปกติคนเขียนไม่รับเคสนะคะ โดยเฉพาะเคส Character ถ้าทำได้ไม่ดี เคสถูกปฏิเสธกันได้ง่ายๆเลย (ความเครียดสูง ความกดดันสูง มีเวลานิดเดียว) .... แต่ .... บางทีก็มีโมเมนต์ใจอ่อน .... รับเคสมา แล้วก็มาสงสารตัวเองที่ต้องทำงานดึกๆ ทำงานเสาร์อาทิตย์ ...
ทำไมใจอ่อนกับเคสนี้ .... น้องมีเอเจนต์ที่ไม่ใช่เอเจนต์ช่วยยื่นวีซ่าให้ เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง คิดว่าตัวเองมีเอเจนต์ดูแล ... ตอนนัดปรึกษา คนเขียนแจ้งให้น้องทราบว่า ในใบสมัครไม่มีชื่อเอเจนต์ดูแลเคสน้อง เสมือนน้องยื่นเคสเอง .... น้องก็เหวอไป ...
ขนาดเคสขับรถเร็ว เคสเมาแล้วขับ ยังมีคนถูกปฏิเสธวีซ่ามาแล้ว .... แต่เคสนี้ แฟนน้องซึ่งสมัครวีซ่าพร้อมกับน้อง มีเคสทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นเคสซีเรียสกว่า โอกาสเคสจะไม่รอดมีสูง ... คุณเอเจนต์ Declare ในใบสมัครก็จริง แต่ Declare แบบไม่ช่วยน้องเลย เคสดูแรงกว่าที่ควรจะเป็น ... น้องก็เหวอไปอีก
แถมมีแนะนำแฟนน้อง (คนที่มีประวัติคดีอาญาว่าไม่ต้อง Declare ชื่อเดิม .... อย่างงี้ก็มีด้วย !!!) .... ชื่อเดิมไม่มีประวัติคดีอะไร แต่การไม่ Declare อาจจะกระทบกับประวัติ Character โดยรวมของน้องได้ ....
เกิดอะไรขึ้นกับน้องและเอเจนต์ .... เอเจนต์แนะนำให้น้องไปหาทนาย ให้ทนายเขียนจดหมายว่าแฟนน้องเป็นคนดี มี Character ที่ดี และก็ยื่นจดหมายนี้เข้าไป และหลังจากนั้นก็โดนบอกปัด ... โดนลอยแพนั่นเอง
คนเขียนบอกน้องว่าเคสยาก ความเสี่ยงสูง ถ้าคนเขียนจะใจอ่อนรับเคส น้องต้องเต็มที่นะ เพราะเวลาเหลืออยู่นิดเดียว .... เคสยากไม่กลัว กลัวลูกความยาก .... น้องสัญญาว่าจะทำเต็มที่ .... สุดท้ายก็ใจอ่อน รับเคสด่วนมาจนได้
คนเขียนทำอะไรกับเคสนี้บ้าง ....
1. แจ้งอิมมิเกรชั่นว่าคนเขียนดูแลเคสน้อง .... เป็น Representative on the record ให้เคสน้อง .... นับจากนี้ไปอิมมิเกรชั่นติดต่อคนเขียน ไม่ใช่ติดต่อน้องโดยตรง .... ส่วนน้องมีหน้าที่ไม่ไปยุ่งอะไรกับใบสมัครของตัวเอง ไม่ยื่นเอกสารอะไรเอง ทุกอย่างผ่านคนเขียน (เราดูแลเคสกันจริงๆค่ะ ไม่มีดูแลครึ่งๆกลางๆ)
2. แจ้ง Declare ชื่อเดิมให้แฟนน้อง .... อุ๊ย Declare กลางทางได้ด้วยเหรอ .... ได้สิ อะไรควรทำ ก็รีบๆทำ ยิ่งรู้ว่าทำผิด ยิ่งต้องรีบแก้ไข .... แจ้งให้อิมมิเกรชั่นทราบเอง ดีกว่าถูกจับได้เป็นไหนๆ
3. เตรียมงาน คิดว่าเอกสารประเภทไหน เอกสารอะไรที่จะช่วยเคสนี้ ร่างเอกสารสำหรับแก้ปัญหาเรื่องคดีอาญาให้แฟนน้อง ... เอกสารหลายชิ้น คนเขียนสัมภาษณ์เก็บข้อมูลจากน้อง และช่วยร่างให้ ไม่งั้นเดี๋ยวน้องเก็บข้อมูลสำคัญไม่หมด เรื่องของเรื่องคือน้องไม่รู้หรอกว่าอะไรสำคัญ หรือไม่สำคัญสำหรับเคส Character และเวลาเรามีนิดเดียว
.... โน๊ตว่า ... เราไม่มีจดหมายจากทนายที่ระบุว่าแฟนน้องเป็นคนดี มี Character ที่ดี (ที่เอเจนต์เดิมแนะนำให้หามายื่น)
.... ทำไมล่ะ .... หาไม่ได้เหรอ ???
.... ไม่ใช่ค่ะ .... คนเขียนไม่ขอ .... เพราะไม่คิดว่าเป็นเอกสารที่เหมาะสมสำหรับเคส Character และในความเป็นจริง จะมีกี่คนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของคุณ ที่จะมาเขียนชื่นชมว่าคุณเป็นคนดี
เคสนี้ รอนานเกือบปี .... รอดไหม .... รอด
ไม่ให้ความหวังก็จริง .... แต่ถ้ารับเคส ก็คือทำเต็มที่นะคะ
ความสำเร็จของแต่ละเคส ไม่ได้อยู่ที่คนเขียนคนเดียว ลูกความมีส่วนอย่างมากที่จะทำให้เคสไปรอดหรือไม่รอด .... เคสนี้น้องลูกความก็เต็มที่กับเคส .... ให้หาเอกสาร น้องหา .... ให้แก้เอกสาร น้องแก้
อย่างที่เกริ่นไป เคสยากไม่กลัว กลัวลูกความยาก
ลูกความยากเป็นยังไง .... แนะนำอะไร ไม่ทำ .... ขออะไร ไม่ได้ .... ตามแล้ว ตามอีก .... หนักสุดคือ หายต๋อม ติดต่อไม่ได้ .... สั้นๆคือไม่ใส่ใจเคสตัวเองนั่นแหละ
อย่าคิดว่าลูกความยากไม่มีอยู่จริง .... ตอนนี้คนเขียนมีน้องลูกความเคสอุทธรณ์อยู่เคสนึง เป็นทุกอย่างที่ลิสไว้เลย ... ทุกวันนี้ยังสงสัยว่าน้องเค้ามาใช้บริการคนเขียนทำไม ... แต่ยังไม่มีคำตอบ เพราะยังติดต่อน้องไม่ได้ (จะว่ามีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ไม่ใช่ เพราะน้องชำระเต็มจำนวน) .... น้องคนอื่นเค้ามีปัญหาติดต่อเอเจนต์ฺ ติดต่อทนายไม่ได้ .... คนเขียนก็มีปัญหา ติดต่อลูกความไม่ได้ .... แอบบ่นผ่านโพส ตามหาลูกความหาย .... น้องรู้ว่าน้องคือใคร ติดต่อกลับมาเถอะ ตามจนเหนื่อยแล้ว
ป.ล.1 ใครที่มีประวัติคดีอาญา เก็บเอกสารเกี่ยวกับคดีไว้ด้วยนะคะ เอกสารบางอย่างอาจจะช่วยเราในอนาคต
ป.ล.2 เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเยอะ พวกแอบอ้างก็เยอะ .... น้องคนไหนที่คิดว่ามีคนเขียนเป็นคนดูแลเคส .... ถ้าน้องไม่เคยคุยกับคนเขียนเลย ไม่มีการเซ็นสัญญาทำงานกับคนเขียน น้องไม่ได้มีคนเขียนดูแลนะคะ ... คนเขียนไม่ทำงานผ่านคนกลาง ไม่ว่าจะใครก็แล้วแต่ ... ตลอดการทำงาน การคุยเคส ไม่ว่าจะโทรศัพท์ ไลน์ SMS อีเมล์ หรือการส่งเอกสาร ลูกความของคนเขียนทุกคนติดต่อคนเขียนโดยตรง และติดต่อได้ตลอด ... ถ้ามีใครบอกว่าคนเขียนเป็นทนายที่ดูแลเคสน้อง แต่น้องคุยงานผ่านคนอื่น ส่งเอกสารผ่านอีเมล์คนอื่น น้องถูกหลอกค่ะ
Blog writer: Kanokwan Subhodyana
Immigration Lawyer
www.immigrationsuccessaustralia.com