คนเขียนได้รับโทรศัพท์เป็นระยะๆ จากน้องๆบางคน.... ต้องการทราบช่องทางการแจ้งอิมมิเกรชั่นให้มาจับคนรู้จัก คนเคยเป็นเพื่อน คนที่ไม่ชอบหน้า แฟนเก่า คู่แข่งทางการค้า ศัตรูหัวใจ บลา บลา.... ที่มีสถานะเป็นผี (คนที่ไม่ถือวีซ่า) ....
ถามมาก็ตอบไป .... ตอบว่า ....ไปหาช่องทางกันเอาเอง
คนที่ไม่ถือวีซ่าเค้าเดือนร้อนพอแล้วค่ะ บางคนใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ บางคนไม่กล้าบินหรือขึ้นรถโค้ชไปต่างรัฐเพราะกลัวถูกเช็คพาสปอร์ต บางคนป่วยก็ไม่กล้าไปหาหมอกลัวถูกขอพาสปอร์ต
คนไม่ถือวีซ่าส่วนใหญ่ก็ทราบว่าตัวเองไม่สิทธิ์ทำงาน (ถ้าไม่ทราบ ก็ทราบซะตอนนี้เลยนะคะ) แต่ก็ต้องทำเพราะไม่ทำก็ไม่มีกินมีใช้ ทำงานไปก็ระแวงไปว่าอิมมิเกรชั่นจะบุกมาตรวจหรือไม่ ใครจะแอบไปแจ้ง เพื่อนร่วมงานจะแจ้งรึเปล่า บางคนถูกนายจ้างโกงเงินค่าจ้าง ชีวิตคนเป็นผีก็ไม่มีความสุขและส่วนใหญ่ก็ถูกเอาเปรียบอยู่แล้ว ทำไมเราต้องไปทำให้ชีวิตเค้าแย่ลงด้วย
น้องที่อยากจะแจ้งอิมมิเกรชั่น อาจจะคิดว่า ก็เค้าอยากทำผิดเอง ช่วยไม่ได้
คนเขียนอยากจะบอกว่า ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากอยู่ในสภาพไม่ถือวีซ่าหรอกค่ะ บางคนได้รับคำแนะนำผิดๆ บางคนถูกหลอกมา บางคนถูกหลอกมา+พาสปอร์ตถูกนายหน้ายึด บางคนเอเจนต์ยื่นวีซ่าไม่ทันเวลา บางคนถูกเอเจนต์ลอยแพ บางคนก็อ้างว่าตัวเองเป็นเอเจนต์ แต่จริงๆไม่ได้เป็น หลอกเอาเงิน หลอกว่ายื่นวีซ่าให้แล้ว แต่จริงๆไม่ได้ยื่น สาระพัดเหตุผล .... บางคนรู้อยู่แล้วว่าผิด แต่ก็ตั้งใจปล่อยให้ตัวเองเป็นผีซะอย่างงั้น เพราะมีปัญหาที่สะสางไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย ....
คนเราตัดสินใจผิดพลาด ทำพลาดกันได้ ด้วยเหตุผลร้อยแปด ....
ถ้าเรามีชีวิตที่ดีกว่าเค้า ถ้าเราจะไม่ช่วยเหลือเค้า เราก็ไม่ควรไปทำชีวิตเค้าให้แย่ลง
อาจจะมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับคนเขียน เราไม่ว่ากันค่ะ คนเขียนเคารพความคิดเห็นของคนอื่น แต่จุดยืนยังเหมือนเดิม ถ้าจะโทรมาถามหาช่องทางแจ้งจับคนที่ไม่ถือวีซ่า คนเขียนไม่มีคำตอบให้
ที่มา ประสบการณ์ตรงจากการทำงาน และความเห็นส่วนตัว
Blog writer: Kanokwan Subhodyana
Immigration Lawyer
www.immigrationsuccessaustralia.com
ถามมาก็ตอบไป .... ตอบว่า ....ไปหาช่องทางกันเอาเอง
คนที่ไม่ถือวีซ่าเค้าเดือนร้อนพอแล้วค่ะ บางคนใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ บางคนไม่กล้าบินหรือขึ้นรถโค้ชไปต่างรัฐเพราะกลัวถูกเช็คพาสปอร์ต บางคนป่วยก็ไม่กล้าไปหาหมอกลัวถูกขอพาสปอร์ต
คนไม่ถือวีซ่าส่วนใหญ่ก็ทราบว่าตัวเองไม่สิทธิ์ทำงาน (ถ้าไม่ทราบ ก็ทราบซะตอนนี้เลยนะคะ) แต่ก็ต้องทำเพราะไม่ทำก็ไม่มีกินมีใช้ ทำงานไปก็ระแวงไปว่าอิมมิเกรชั่นจะบุกมาตรวจหรือไม่ ใครจะแอบไปแจ้ง เพื่อนร่วมงานจะแจ้งรึเปล่า บางคนถูกนายจ้างโกงเงินค่าจ้าง ชีวิตคนเป็นผีก็ไม่มีความสุขและส่วนใหญ่ก็ถูกเอาเปรียบอยู่แล้ว ทำไมเราต้องไปทำให้ชีวิตเค้าแย่ลงด้วย
น้องที่อยากจะแจ้งอิมมิเกรชั่น อาจจะคิดว่า ก็เค้าอยากทำผิดเอง ช่วยไม่ได้
คนเขียนอยากจะบอกว่า ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากอยู่ในสภาพไม่ถือวีซ่าหรอกค่ะ บางคนได้รับคำแนะนำผิดๆ บางคนถูกหลอกมา บางคนถูกหลอกมา+พาสปอร์ตถูกนายหน้ายึด บางคนเอเจนต์ยื่นวีซ่าไม่ทันเวลา บางคนถูกเอเจนต์ลอยแพ บางคนก็อ้างว่าตัวเองเป็นเอเจนต์ แต่จริงๆไม่ได้เป็น หลอกเอาเงิน หลอกว่ายื่นวีซ่าให้แล้ว แต่จริงๆไม่ได้ยื่น สาระพัดเหตุผล .... บางคนรู้อยู่แล้วว่าผิด แต่ก็ตั้งใจปล่อยให้ตัวเองเป็นผีซะอย่างงั้น เพราะมีปัญหาที่สะสางไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย ....
คนเราตัดสินใจผิดพลาด ทำพลาดกันได้ ด้วยเหตุผลร้อยแปด ....
ถ้าเรามีชีวิตที่ดีกว่าเค้า ถ้าเราจะไม่ช่วยเหลือเค้า เราก็ไม่ควรไปทำชีวิตเค้าให้แย่ลง
อาจจะมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับคนเขียน เราไม่ว่ากันค่ะ คนเขียนเคารพความคิดเห็นของคนอื่น แต่จุดยืนยังเหมือนเดิม ถ้าจะโทรมาถามหาช่องทางแจ้งจับคนที่ไม่ถือวีซ่า คนเขียนไม่มีคำตอบให้
ที่มา ประสบการณ์ตรงจากการทำงาน และความเห็นส่วนตัว
Blog writer: Kanokwan Subhodyana
Immigration Lawyer
www.immigrationsuccessaustralia.com
RSS Feed
