แชร์ประสบการณ์เคสอุทธรณ์วีซ่า 485 ถูกปฏิเสธ

เคสนี้น้องติดต่อมาหาคนเขียนหลังจากที่วีซ่า 485 ถูกปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าน้องไม่ได้ยื่นใบสมัครภายใน 6 เดือนนับจากที่เรียนจบ

น้องหลายคนอาจจะคิดว่า นับ 6 เดือนยากตรงไหน?? .... ก็ยากตรงที่ 6 เดือนของน้อง กับ 6 เดือนของโรงเรียน บางทีก็ไม่ตรงกัน !!! 

อ้าว .... แล้วอิมมิเกรชั่น เชื่อใคร?? .... ส่วนใหญ่เชื่อโรงเรียน เพราะโรงเรียนเป็นหน่วยงานที่สอน ตรวจข้อสอบ และระบุว่านักเรียนจบหรือไม่จบ และจบเมื่อไหร่ .... คือเป็นหน่วยงานที่น่าจะเชื่อถือได้ มากกว่าเด็กนักเรียนที่อาจจะเข้าใจวันจบผิด หรือคิดเข้าข้างตัวเอง พูดง่ายๆคือโอกาสที่โรงเรียนจะผิดพลาด มีน้อยกว่าโอกาสที่นักเรียนจะผิดพลาด แต่ก็ไม่เสมอไปใช่ไหม .... กฏหมายและนโยบาย ถึงเปิดช่องให้โต้เถียงได้ไง

สำหรับเคสนี้ จากเอกสารที่พิจารณาในวันนัดปรึกษาเบื้องต้น สรุปได้ว่า
◘ อิมมิเกรชั่นปฏิเสธวีซ่า 485 ของน้อง เพราะวันจบคอร์สที่น้องระบุในใบสมัคร (ซึ่งยังอยู่ในระยะเวลา 6 เดือน)
◘ ไม่ตรงกับวันจบที่ระบุใน Letter of Completion ที่โรงเรียนออกให้
◘  เรื่องของเรื่องคือ ถ้ายึดตามวันจบของโรงเรียน น้องยื่นใบสมัครช้า เลย 6 เดือนไปเรียบร้อย (เตรียมถูกปฏิเสธ)
◘  อิมมิเกรชั่นใจดี ไม่ปฏิเสธทันที แต่ส่งจดหมายมาว่า ... ถ้าดูจาก Letter of Completion คุณยื่นช้า เกิน 6 เดือนไปแล้วนะ มีอะไรจะอธิบายไหม .....
◘ น้องยื่นคำอธิบายและหลักฐานเพิ่มเติมว่าจริงๆแล้วจบหลังจากนั้น ...... คือจะบอกว่าวันจบที่โรงเรียนระบุใน Letter of Completion ไม่ถูกต้อง และวันจบของน้องถูกต้อง
◘ ไม่บอกก็รู้ว่าอิมมิเกรชั่นไม่เชื่อน้อง  ไม่งั้นคนเขียนคงไม่มีเคสอุทธรณ์มาแชร์ประสบการณ์การช่วยเคสนี้

จริงๆ แล้ว คำอธิบายที่น้องส่งเพิ่มให้อิมมิเกรชั่น ข้อเท็จจริงครบถ้วน แต่บางครั้งข้อเท็จจริงอย่างเดียวไม่พอไงคะ การคัดเลือกเอกสาร ความน่าเชื่อถือของเอกสาร และการนำเสนอ สำคัญมาก

คนเขียนบอกน้องว่า จากข้อเท็จจริงและเอกสารที่เห็นเบื้องต้น เชื่อว่าเรามีโอกาสโนวน้าวหน่วยงานอุทธรณ์ AAT ให้เชื่อน้องได้ ส่วนจะมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเอกสารเพิ่มเติม และน้องจะตอบคำถามได้ดีแค่ไหนในวัน Hearing ...... ว่าแล้วแนะนำว่าในระหว่างรอ Hearing ให้น้องติดต่อโรงเรียนอีกรอบ หรือหลายรอบให้แก้ไข Letter of completion ให้น้องได้ไหม เคสอุทธรณ์จะง่ายขึ้นเยอะเลย ในขณะเดียวกันก็ให้น้องหาเอกสารเพิ่มเพื่อคอนเฟิร์มว่าวันจบคอร์สที่ระบุใน Letter of Completion น้องยังไม่จบคอร์สจริงๆ

สรุปว่า เกือบ 2 ปีที่รอ AAT Hearing
■ น้องทำตามคำแนะนำ ติดต่อโรงเรียนหลายรอบ โรงเรียนไม่สนใจ เหมือนจะรู้ว่าตัวเองผิด แต่ไม่ยอมแก้เอกสาร มีอะไรไหม
■ น้องหาเอกสารเพิ่มได้นิดเดียว เพราะเอกสารส่วนใหญ่อยู่ในเครื่องคอมที่เปิดไม่ได้แล้ว
■ คนเขียนส่งเอกสารที่เหมาะสม เท่าที่น้องหาได้ และเขียนสรุปโต้เถียงเคสให้น้อง
■ เราเตรียมน้องสำหรับขึ้นศาล ทบทวนเคสของน้องให้น้องฟัง รวมถึงแนวทางการโต้เถียงเคสนี้
■ คนเขียนแจ้งน้องว่า ต่อให้เลยกำหนดส่งเอกสาร ไม่ได้แปลว่าส่งเพิ่มไม่ได้นะ AAT มีหน้าที่พิจารณาเอกสารและข้อมูลทุกอย่างที่ยื่นเข้าไป แต่อาจจะมีเคืองบ้างถ้ายื่นใกล้วัน Hearing เกินไป .... ง่ายๆคือถ้าเจอเอกสารเพิ่มที่อาจจะเป็นประโยชน์กับเคส ส่งมาให้ด้วย เดี๋ยวตัดสินใจเองว่าจะทำยังไง คนเขียนอาจจะโดน AAT โวยที่ส่งเอกสารช้า แต่เพื่อลูกความ ถ้าจะทำให้เคสแน่นขึ้น มีโอกาสมากขึ้น ยอมโดนโวยค่ะ
■ เช้าวัน Hearing น้องส่งอีเมล์มาตอน 8 โมงเช้า ..... น้องเปิดเครื่องคอมเก่าได้แล้ว เจอเอกสารพวกนี้เลยส่งมาให้ดู เผื่อใช้ได้ ....  เอกสารที่ว่าคืออีเมล์ต่างๆที่น้องติดต่อกับทางโรงเรียน และเอกสารแนบอื่นๆ .... น้องลิสมา 12 รายการ แต่จริงๆแล้วมีเอกสารอยู่ซัก 20 รายการ  ที่ต้องอ่าน ทำความเข้าใจ และตัดสินใจว่าจะยื่นเอกสารอะไร (ให้ทันก่อนนัด Hearing ตอนเที่ยง)
■ น้องอาจจะคิดว่าเป็นงานเล็กๆ แต่คนเขียนใช้เวลาอ่าน และคิดอยู่ 2 ชั่วโมง .... สุดท้ายตัดสินใจยื่นเอกสารเพิ่ม 1 ชิ้น !!!
■ AAT ซักถามน้องอยู่พักนึง เพราะไม่เข้าใจว่าถ้าโรงเรียนทำไม่ถูกต้อง ทำไมไม่แก้ไข แล้วการเรียนจริงๆเป็นยังไง เราคาดไว้แล้วว่าจะต้องถูกถามประมาณนี้ น้องตอบได้ไม่ติดขัด
■ AAT ระบุว่าเอกสารสุดท้าย 1 ชิ้นที่เพิ่มเข้ามานี่แหละ ที่ทำให้ AAT เชื่อว่าวันที่น้องจบช้ากว่าวันที่โรงเรียนระบุไว้ใน Letter of Completion จริง  และตัดสินว่าน้องยื่นใบสมัครวีซ่า 485 ภายใน 6 เดือนนับจากเรียนจบคอร์ส ตามที่กฏหมายระบุไว้

เสี่ยงไหมกับการยื่นเอกสาร 1 ชิ้น ในขณะที่น้องส่งเอกสารมาให้เยอะแยะเลย .... สำหรับคนเขียน ไม่ค่ะ .... คนเขียนไม่ได้เลือกเอกสารแบบไม่ใส่ใจ แต่ใช้เวลาอ่านและคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจยื่นเอกสารชิ้นเดียว .... คนเขียนส่งอีเมล์บอกน้องว่ายื่นเอกสารให้แล้วนะ ชิ้นเดียว ถ้าติดปัญหาค่อยว่ากัน ..... น้องตอบกลับมาสั้นๆง่ายๆว่า Ok ค่ะ

คนเขียนอ่านเจอตามโพส ที่บางคนก็ติเอเจนต์หรือทนายความว่าให้เอกสารไปตั้งเยอะ แต่ไม่ยื่น .... โอเค คนที่ทำงานแบบไม่ใส่ใจ ไม่พิจารณาเอกสาร ไม่รอบคอบกับเอกสาร ก็มี .... แต่คนที่คิดแล้วคิดอีก ว่าเอกสารแต่ละชิ้นจะช่วยหรือไม่ช่วยลูกความ ก่อนที่จะตัดสินใจยื่น หรือไม่ยื่นเอกสารแต่ละชิ้น ก็มีเช่นกันนะคะ

จะตัดสินใจใช้บริการใครซักคน ก่อนอื่นเลย เลือกคนที่เราคิดว่าเราจะไว้ใจเค้าได้ ..... และถ้าคุยเบื้องต้นแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าไว้ใจได้ ก็หาต่อไป จนกว่าจะเจอคนที่ใช่

Blog writer: Kanokwan Subhodyana
Immigration Lawyer
www.immigrationsuccessaustralia.com